พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงรับการถวายพระเกียรติคุณรางวัล “เกษตรศาสตร์ ปราดเปรื่อง” ในฐานะที่ทรงเป็นศิษย์เก่าม.เกษตรศาสตร์ ที่สร้างชื่อเสียงและทำคุณประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม พร้อมทรงเปิดการสัมมนาวิชาการคหกรรมศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 17 เรื่อง “ปลูกพลังรัก สร้างพลังปัญญา ต้านปัญหาเด็กและเยาวชน” ณ ห้องประชุมสุธรรมอารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี
รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้กล่าวสดุดีพระเกียรติคุณพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ ว่า ทรงเข้าศึกษาต่อระดับ ปริญญาโทและสำเร็จการศึกษาเมื่อปี 2550 ในสาขาวิชาเอกพัฒนาการครอบครัวและเด็ก จากภาควิชาคหกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ และได้ทรงงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้ทรงศึกษามา เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น เช่น การส่งเสริมนมแม่ การพัฒนาโภชนาการเด็กเล็ก การจัดทำคู่มือการเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียน การดูแลเด็กที่ถูกทอดทิ้ง ผู้สูงวัย ผู้พิการ ตลอดจนช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ภายใต้โครงการสายใยรักแห่งครอบครัวฯ ซึ่งนับเป็นพระกรุณาธิคุณที่ประทานแก่ ประชาชนชาวไทย ม.เกษตรศาสตร์จึงได้ ขอประทานอนุญาตถวายพระเกียรติคุณ “เกษตรศาสตร์ ปราดเปรื่อง” เพื่อเผยแพร่ พระเกียรติคุณให้เป็นที่ประจักษ์
ภายหลังจากที่ทรงรับการถวายพระเกียรติคุณ พระองค์หญิงศรีรัศมิ์ฯได้ทรงเปิดสัมมนาวิชาการคหกรรมศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 17 เรื่อง “ปลูกพลังรัก สร้างพลังปัญญา ต้านปัญหาเด็กและเยาวชน” โดยทรงมีพระดำรัสซึ่งมีใจความตอนหนึ่งว่า เด็กและเยาวชนคือสมาชิกของสังคมที่มีส่วนสำคัญต่อความเจริญ ขึ้นหรือเสื่อมลงของชาติบ้านเมืองในอนาคต แต่ปัจจุบันสังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เด็กและเยาวชนส่วนหนึ่งประสบกับปัญหา ทั้งปัญหา ที่เกิดจากตนเอง เช่น ปัญหาด้านพฤติกรรม ด้านอารมณ์และยาเสพติด และปัญหาที่เกิดจากภายนอกที่ถูกกระทำที่รุนแรงทางร่างกายและจิตใจ ดังนั้น ปัญหาเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนทุกฝ่ายจะต้องให้ความสำคัญ และร่วมกัน แก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เจริญพัฒนาไปในทางที่ถูกที่ควร โอกาสนี้ พระองค์หญิงศรีรัศมิ์ฯยังได้ทอดพระ เนตรนิทรรศการเทิดพระเกียรติ ที่เล่าเรื่องตั้งแต่ทรงสำเร็จการศึกษาจากรั้วเกษตรศาสตร์สู่โครงการสายรักแห่งครอบครัว และแนวคิดเชิงบูรณาการขององค์กรภาครัฐและเอกชนที่ร่วมถวายงาน ภายใต้โครงการสายใยรักแห่งครอบครัวฯ ซึ่ง ม.เกษตรศาสตร์ก็เป็นหนึ่งในหลายหน่วยงานที่ได้ร่วมถวายงานโดยเฉพาะด้านวิชาการ นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการแสดงผลงานการประกวดโครงงานคหกรรมศาสตร์ เพื่อลดภาวะโลกร้อน ประจำปี 2551 อาทิ โครงงานการลอกกาวไหมด้วยเอนไซม์ ธรรมชาติ ฯลฯ.
รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้กล่าวสดุดีพระเกียรติคุณพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ ว่า ทรงเข้าศึกษาต่อระดับ ปริญญาโทและสำเร็จการศึกษาเมื่อปี 2550 ในสาขาวิชาเอกพัฒนาการครอบครัวและเด็ก จากภาควิชาคหกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ และได้ทรงงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้ทรงศึกษามา เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น เช่น การส่งเสริมนมแม่ การพัฒนาโภชนาการเด็กเล็ก การจัดทำคู่มือการเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียน การดูแลเด็กที่ถูกทอดทิ้ง ผู้สูงวัย ผู้พิการ ตลอดจนช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ภายใต้โครงการสายใยรักแห่งครอบครัวฯ ซึ่งนับเป็นพระกรุณาธิคุณที่ประทานแก่ ประชาชนชาวไทย ม.เกษตรศาสตร์จึงได้ ขอประทานอนุญาตถวายพระเกียรติคุณ “เกษตรศาสตร์ ปราดเปรื่อง” เพื่อเผยแพร่ พระเกียรติคุณให้เป็นที่ประจักษ์
ภายหลังจากที่ทรงรับการถวายพระเกียรติคุณ พระองค์หญิงศรีรัศมิ์ฯได้ทรงเปิดสัมมนาวิชาการคหกรรมศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 17 เรื่อง “ปลูกพลังรัก สร้างพลังปัญญา ต้านปัญหาเด็กและเยาวชน” โดยทรงมีพระดำรัสซึ่งมีใจความตอนหนึ่งว่า เด็กและเยาวชนคือสมาชิกของสังคมที่มีส่วนสำคัญต่อความเจริญ ขึ้นหรือเสื่อมลงของชาติบ้านเมืองในอนาคต แต่ปัจจุบันสังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เด็กและเยาวชนส่วนหนึ่งประสบกับปัญหา ทั้งปัญหา ที่เกิดจากตนเอง เช่น ปัญหาด้านพฤติกรรม ด้านอารมณ์และยาเสพติด และปัญหาที่เกิดจากภายนอกที่ถูกกระทำที่รุนแรงทางร่างกายและจิตใจ ดังนั้น ปัญหาเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนทุกฝ่ายจะต้องให้ความสำคัญ และร่วมกัน แก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เจริญพัฒนาไปในทางที่ถูกที่ควร โอกาสนี้ พระองค์หญิงศรีรัศมิ์ฯยังได้ทอดพระ เนตรนิทรรศการเทิดพระเกียรติ ที่เล่าเรื่องตั้งแต่ทรงสำเร็จการศึกษาจากรั้วเกษตรศาสตร์สู่โครงการสายรักแห่งครอบครัว และแนวคิดเชิงบูรณาการขององค์กรภาครัฐและเอกชนที่ร่วมถวายงาน ภายใต้โครงการสายใยรักแห่งครอบครัวฯ ซึ่ง ม.เกษตรศาสตร์ก็เป็นหนึ่งในหลายหน่วยงานที่ได้ร่วมถวายงานโดยเฉพาะด้านวิชาการ นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการแสดงผลงานการประกวดโครงงานคหกรรมศาสตร์ เพื่อลดภาวะโลกร้อน ประจำปี 2551 อาทิ โครงงานการลอกกาวไหมด้วยเอนไซม์ ธรรมชาติ ฯลฯ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น